3 สิ่งที่ต้องรู้ในการเขียนคอนเทนต์ออนไลน์ ให้ดึงดูดใจผู้อ่าน

การสร้างคอนเทนต์ออนไลน์ หรือ คอนเทนต์สำหรับแพลตฟอร์มดิจิทัลในปัจจุบันนี้ถือว่ามีความท้าทายไม่เหมือนกับสื่อสิ่งพิมพ์แบบแต่ก่อน เนื่องจากแพลตฟอร์มดิจิทัลมีลักษณะและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ทำให้ต้องมีการใช้วิธีการนำเสนอและลักษณะของคอนเทนต์ที่ต่างออกไป และหากใครที่เป็น Content Writer มือใหม่ หรือต้องการปรับปรุงคอนเทนต์ของตัวเองให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมละก็ วันนี้เราก็มีบทความดีๆ เกี่ยวกับการเขียนคอนเทนต์ออนไลน์มาฝากกันแล้ว มาดูสิว่ามีอะไรที่ควรต้องรู้และทำความเข้าใจสำหรับงานเขียนบนสื่อดิจิทัลบ้าง

1. ปรับการสื่อสารให้เข้ากับแพลตฟอร์มต่างๆ

ในยุคดิจิทัลนี้ แพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับการสื่อสารนั้นมีให้เลือกมากมาย ซึ่งความแตกต่างระหว่างคอนเทนต์ออนไลน์และสื่อสิ่งพิมพ์หรือแพลตฟอร์มดั้งเดิมนั้นมีหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเร็ว ความยืดหยุ่น หรือการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อ่าน และด้วยแพลตฟอร์มออนไลน์ ผู้สร้างคอนเทนต์สามารถสื่อสารได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านอุปกรณ์ดิจิทัลต่างๆ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ สิ่งเหล่านี้ทำให้คอนเทนต์ออนไลน์มีโอกาสถูกเปิดดูและแชร์ต่อไปในวงกว้าง และสร้างโอกาสให้คอนเทนต์นั้นมีผลต่อผู้อ่านมากขึ้นเมื่อเทียบกับสื่อแบบดั้งเดิม การเข้าใจถึงความแตกต่างนี้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับนักสร้างคอนเทนต์ในยุคปัจจุบัน ซึ่งมีดังต่อไปนี้

  • ปรับภาษาและวิธีการสื่อสาร

การสื่อสารบนโลกออนไลน์ในปัจจุบันได้พัฒนาและเปลี่ยนแปลงมากจากสมัยก่อนที่ใช้หนังสือและสื่อสิ่งพิมพ์เป็นหลัก โดยในสมัยนี้ สื่อดิจิทัลได้กลายเป็นสื่อกลางในการสื่อสารระหว่างผู้เขียนและผู้อ่านเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้การใช้ภาษาและรูปแบบการเขียนเป็นแบบเป็นกันเองมากขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ผู้เขียนยังคงต้องปฏิบัติตามหลักการทางภาษา เช่น การเลือกใช้คำศัพท์ที่ถูกต้องตามพจนานุกรม และการให้ความสำคัญกับคุณภาพของเนื้อหา เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่านได้อย่างถูกต้องและมีประโยชน์.

  • ความยาวและย่อหน้า

สำหรับแพลตฟอร์มคลาสสิกอย่างหนังสือนั้น มักจะมีความยาวและย่อหน้ามากกว่าสื่อดิจิทัล ซึ่งบางครั้งผู้อ่านบนโลกออนไลน์อาจจะไม่มีสมาธิเพียงพอ ทำให้คอนเทนต์ที่ยาวหรือมีย่อหน้ามากๆ จะทำให้ผู้อ่านไม่สามารถติดตามและเชื่อมโยงเนื้อหาได้ง่าย ดังนั้น คอนเทนต์ที่สั้นและอ่านง่ายจะทำให้ผู้อ่านมีโอกาสอ่านคอนเทนต์ของเราต่อหรืออ่านได้จนจบมากขึ้น

  • รูปแบบ

รูปแบบเป็นสิ่งที่ช่วยให้การอ่านลื่นไหลมากยิ่งขึ้น ซึ่งการจัดรูปแบบคอนเทนต์ที่ใช้ในสื่อดิจิทัลมีความแตกต่างจากหนังสือเล่ม โดยมักจะมีระยะห่างระหว่างย่อหน้ามากกว่า และใช้ Bullet Point หรือหัวข้อย่อย (Subheading) เข้ามาช่วยให้ผู้อ่านติดตามและเข้าใจเนื้อหาต่างๆ ได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงการใส่ภาพประกอบ คลิปวิดีโอ กราฟหรือแผนภูมิ จะทำให้ผู้อ่านเกิดความสนใจ สนุกสนาน และเข้าใจสิ่งที่เราต้องการสื่อได้ดียิ่งขึ้น

2. คอนเทนต์ออนไลน์ที่ดี ต้องมีเทคนิค

เวลาเราเขียนหนังสือเรามักจะเน้นที่เนื้อหา การใช้ภาษาให้ถูกต้อง และการจัดเรียงความคิดเรื่องราวให้น่าสนใจ แต่ในส่วนของการเขียนคอนเทนต์ออนไลน์ เราต้องเอาความรู้เรื่องเทคนิคมาใช้ด้วย เพื่อทำให้เนื้อหาไม่เพียงแต่น่าอ่านและมีคุณภาพ แต่ยังต้องทำให้ผู้อ่านเห็นและเข้าถึงคอนเทนต์ของเราในโลกออนไลน์ได้มากขึ้นด้วย

  • การใช้ SEO (Search Engine Optimization)

SEO หรือ Search Engine Optimization คือสิ่งที่จำเป็นสำหรับคนที่ต้องการให้คอนเทนต์ของตนโดดเด่นในโลกออนไลน์ เพราะส่วนใหญ่เราก็จะหาข้อมูลผ่าน Google และ Search Engine อื่นๆ ดังนั้น การทำความเข้าใจว่า Search Engine คัดเลือกเนื้อหายังไง จะช่วยให้เราสร้างคอนเทนต์ที่ “ค้นหาเจอง่าย” และเพิ่มโอกาสให้คนเข้ามาอ่านมากขึ้น โดยใช้ Keyword ที่คนค้นหากันเป็นจำนวนมาก หรือกำลังมาแรงในขณะนั้น นอกจากนี้ การเลือกคำที่เหมาะสมสำหรับชื่อบทความ (Title) และคำอธิบาย (Meta Description) ยังเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยทำให้คอนเทนต์ของเรานั้นโดดเด่น สามารถดึงดูดทั้งผู้อ่านและระบบอัลกอริทึมของ Search Engine ได้อีกด้วย

  • ใช้ Keyword ที่มีคนค้นหาเยอะ

Keyword หรือ คำหลักที่คนใช้พิมพ์ค้นหาข้อมูลบน Google หรือ Search Engine ซึ่งคำเหล่านี้ช่วยนำผู้อ่านมายังคอนเทนต์ของเรา ซึ่งการใช้ Keyword ที่ตรงประเด็นและตรงตามความต้องการของผู้ค้นหาจะเพิ่มโอกาสที่บทความของเราจะติดอันดับสูงในผลการค้นหา โดยควรใส่ Keyword ให้ทั่วถึงทั้งเรื่อง เช่น ชื่อเรื่อง หัวข้อย่อย หรือแม้แต่ในเนื้อความ จะยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสให้เนื้อหาของเราถูกพบเจอง่ายขึ้น นอกจากนี้การเลือกใช้ Keyword ที่มียอด Search Volume สูงๆ หรือใช้คำที่คนสนใจและค้นหาบ่อย ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ SEO มากยิ่งขึ้น

  • ทำให้ผู้อ่านมีส่วนร่วม (Engagement)

Engagement ในมุมของสื่อดิจิทัลคือการมีส่วนร่วมของผู้อ่านกับคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็นการแชร์ หรือคอมเมนต์แสดงความคิดเห็น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของคอนเทนต์นั้นๆ ซึ่งการเพิ่ม Engagement สามารถทำได้โดยการสร้างบทความที่มีคุณภาพ มีประโยชน์ และสร้างสรรค์ และสามารถสื่อสารกับผู้อ่านผ่านโซเชียลมีเดียได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญหากมี Engagement ที่สูง ย่อมทำให้ Search Engine ให้ความสนใจและยกระดับคอนเทนต์ของเราในหน้าการค้นหาได้อีกด้วย

  • เขียนคอนเทนต์แบบ Evergreen

คอนเทนต์แบบ Evergreen คือเนื้อหาที่ยังคงมีความเกี่ยวกับผู้อ่านไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี และไม่เก่าไปตามเวลา เช่น คำแนะนำทั่วไป ความรู้พื้นฐาน หรือบทความที่ไม่ขึ้นกับกระแสหรือเหตุการณ์ใดๆ ซึ่งการสร้างบทความประเภทนี้ช่วยดึงดูดผู้อ่านมายังเว็บไซต์ของเราอย่างยาวนาน และสร้างความน่าเชื่อถือ การเขียนคอนเทนต์แบบ Evergreen จึงต้องมีการค้นคว้า วิจัย ใส่เนื้อหาที่ละเอียดและมีความถูกต้อง แม่นยำ หรือมีการอัปเดตในปัจจุบัน เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อผู้อ่าน

3. คอนเทนต์ต้องมีคุณภาพ

การเขียนคอนเทนต์ไม่เพียงแต่เน้นที่รูปแบบหรือเทคนิคเท่านั้น แต่เนื้อหาที่มีคุณภาพยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้อ่านสนใจต่อเนื่อง นอกจากนี้ คอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูงไม่เพียงแต่ทำให้ผู้อ่านติดตามเราอย่างยาวนาน แต่ยังทำให้คอนเทนต์ได้รับการสนับสนุนจากอัลกอริทึมของ Search Engine อย่าง Google ที่เน้นการสนับสนุนคอนเทนต์คุณภาพดี เช่น เป็นคอนเทนต์ที่ให้ความรู้ ให้ข้อมูลละเอียด เป็นเนื้อหาต้นฉบับ มีการมีส่วนร่วมทางโซเชียลมีเดีย หรือมีสื่อประกอบที่น่าสนใจ เป็นต้น

สรุป

การเขียนคอนเทนต์ออนไลน์ให้มีคุณภาพและน่าสนใจ ไม่เพียงแค่เราเป็นนักเขียนที่มีทักษะด้านการเขียนที่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่ความรู้และความเข้าใจในเรื่องของรูปแบบของเนื้อหา วัฒนธรรมการใช้งานของผู้อ่านที่เปลี่ยนไป และเทคนิคบนแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องรู้ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ถ้าเรามีทักษะที่ดี แต่ไม่มีเทคนิค หรือมีเทคนิคแต่ไม่มีทักษะ คอนเทนต์ของเราก็จะไม่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้อ่านได้นั่นเองค่ะ 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

© 2023 Anissa. All rights reserved.

Anissa AI is issued by Luca Block Co., Ltd.